The easiest way to download Lemon8 video & photo without watermark or logo
TIP! Right-click and select "Save link as..." to download.
PHOTOS | |||
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download | |
WEBP | Origin Image | Download |
📌ข้อดี/ข้อเสีย:🗣️แนะนำเพิ่มเติม:
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก “มัลดีฟส์” เป็นอย่างดี ในภาพของเกาะสวาท หาดสวรรค์ ที่มีน้ำใสสีฟ้าสวย รีสอร์ทกลางน้ำที่งดงามเย้ายวนใจ ให้ได้ไปถ่ายรูป เช็คอินสักครั้งในชีวิต ซึ่งภาพเหล่านี้ปรากฎตามหน้าสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเหล่าอินฟลูฯ น้อยใหญ่ ที่สะพายกระเป๋า เล่าทริป จนเป็น “ภาพจำ” ของคนส่วนใหญ่ แต่…มัลดีฟส์ ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่คุณอาจไม่เคยรู้ และยังมีหลายความเข้าใจผิดๆ กันอยู่
.
1. มัลดีฟส์ คือ ประเทศมัลดีฟส์ ไม่ใช่ชื่อเมืองหรือหมู่เกาะแบบที่หลายๆ คนเข้าใจผิดกัน เหมือนคนเข้าใจว่าบาหลี ที่อยู่ในอินโดนิเชีย แบบนั้นเลย ซึ่งผมมักจะได้รับคำถามบ่อยๆ เวลาบอกว่าจะไปมัลดีฟส์ …“มัลดีฟส์ อยู่ประเทศอะไร” ? ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความเป็นประเทศเล็ก หมู่เกาะต่างๆ อยู่กันแบบกระจัดกระจายกลางมหาสมุทร เวลาเปิด google map ถ้าไม่ขยายดู เราก็จะหามัลดีฟส์ไม่เจอในทันที
.
2. ประเทศมัลดีฟส์ มีเมืองหลวงชื่อ Malé (อ่านว่า มา-เล่) ซึ่งที่มัลดีฟส์เขานับถือศาสนาอิสลามแบบเคร่งครัด ฉะนั้นในเมืองหลวงจึงไม่มีแอลกอฮอล์ขายเลย ทั้งตามร้านอาหาร ร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เราเห็นคนไปเที่ยวมัลดีฟส์แล้วมีเบียร์ มีไวน์ดื่ม นั่นก็จะมีในเฉพาะเกาะสำหรับนักท่องเที่ยว โรงแรมและตามรีสอร์ทส่วนตัวเท่านั้น
.
3. ในเมื่อไม่มีเหล้า ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย คนที่นั่นจึงดื่มกาแฟ (หรือชา) กันทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ..คนนึงอย่างน้อยก็ 3-4 แกัว และควบคู่ไปกับการสูบบุหรี่ แต่ก็เป็นข้อดีที่ไม่มีเหตุเมาแล้วขับ หรือตีกันเพราะเมาเหล้า
.
4. คนมัลดีฟส์จะมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ ต่างจากชาติอื่นในโซนใกล้เคียง โดยเฉพาะผู้ชาย ซึ่งผมเองก็อธิบายไม่ถูก แต่ก็พอจะแยกออก แต่ถ้านักท่องเที่ยวที่ไปแบบไม่กี่วัน หรือใครที่เพิ่งไปอยู่ใหม่ๆ อาจจะเหมารวมแรงงานต่างด้าว(ซึ่งมีเยอะมาก) อย่าง อินเดีย ศรีลังกา เนปาล บังคลาเทศ ฯลฯ เป็นคนมัลดีฟส์ทั้งหมด เพราะคนไทยเราจะเหมารวมเรียกคนที่เป็น Muslim face ว่า “แขก”
.
5. คนมัลดีฟส์ไม่ได้ใจดีหรือยิ้มง่ายอย่างที่คิด หรืออย่างที่อินฟลูฯ ชอบรีวิวกัน เพราะส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวมัลดีฟส์ก็จะไปตามเกาะ ตามโรงแรมหรือรีสอร์ทหรู ซึ่งแน่นอนล่ะ เขาต้องบริการดีและยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่แล้ว แต่จากประสบการณ์ที่ไปใช้ชีวิตที่นั่นหลายเดือน เชื่อไหมบางทีเจอกันทุกวัน เดินสวนกันยังไม่เคยยิ้ม ไม่เคยทักเลย แถมบางคนเดินสวนกันในทางแคบๆ นี่แทบจะไม่หลบ และมีความไม่เป็นมิตรเอามากๆ แต่กระนั้นก็ตาม คนที่น่ารัก ใจดีก็ยังพอมีให้เห็น แต่น้อยกว่าคนไทยเราแน่นอน
.
6. แม้จะเป็นหมู่เกาะกลางทะเล แต่อย่าหวังว่าจะได้กินอาหารทะเลสดๆ ดีๆ เนื่องด้วยที่ตั้งและภูมิศาสตร์ ซึ่งผมก็ไม่อาจอธิบายได้ว่าเพราะอะไร แต่ความหลากหลายของสัตว์ทะเลมีน้อยมาก ของทะเลขึ้นชื่อของเขาคือ Valhomas หรือทูน่า ซึ่งมีเยอะมาก จนเขานำมากินแบบตากแห้งและขึ้นชื่อมากกว่ากินสดเสียอีก ส่วนกุ้ง หอย ปู ปลาอื่นๆ คุณเอ๊ย ถ้าไปเดินตลาดปลา ก็แทบไม่มีให้เห็น หรือนานๆ จะมาที ส่วนที่เสิร์ฟกันตามร้านอาหารหรือโรงแรม ก็ frozen และนำเข้ามาทั้งนั้นแหละจ้ะ .. ไอ้ความหวังที่จะได้กินทูน่าสดๆ แบบซาซิมิยิ่งแล้วใหญ่ ฝันสลายและ “อี๋” กันเลยทีเดียว ถ้าคุณได้เห็นเขียง เห็นสถานที่และวิธีที่เขาแล่ปลา อย่าหากินสดเลยจ้า อาจป่วยเข้าโรงพยาบาลได้เลย
.
7. อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ นม เขานำเข้าจากต่างประเทศเกือบ 100% ยิ่งถ้าเป็นเนื้อสัตว์ล่ะก็ ไม่มีเชือดสดทุกเช้าแล้วเราไปซื้อกันวันต่อวันได้ตามตลาดนะ เป็น frozen ทั้งหมด ส่วนผักผลไม้ ก็มาจากอินเดียและศรีลังกาเป็นหลัก ฉะนั้นถ้าใครที่จะต้องใช้ชีวิตที่นั่นยาวๆ ก็คงจะลำบากและต้องปรับตัวเรื่องอาหารการกินพอสมควร
.
8. อาหารคาว อาหารหลักของมัลดีฟส์จะมีลักษณะและรสชาติใกล้เคียงอาหารอินเดีย ที่จะออกเครื่องเทศเยอะพอสมควร แต่จะไม่จัดเท่าอาหารอินเดีย ส่วนเบเกอรี่ต่างๆ เค้ก ขนมปัง ก็อย่าได้ถามหาความนุ่มเลย ไม่รู้เพราะเขาคุ้นเคยกับอาหารแห้งๆ แข็งๆ และความเป็นประเทศห่างไกลหรือเปล่า ขนมปังที่เราเอาโยนให้ปลาตามท่าน้ำวัด ยังนุ่มอร่อยกว่าขนมปังชื่อดังหลายๆ ร้านเสียอีก แต่ก็มีขนมหลายอย่างที่ออกนุ่ม หนึบ คล้ายขนมบ้านเราก็มี ผมยังเคยพูดติดตลกบ่อยๆ ว่าถ้าใครหิ้วขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ไปขายให้คนไทยที่นั่นได้ คือ รวย
.
9. แม้จะเป็นประเทศที่ทะเลสวยมาก ติดอันดับโลก แลดูมีทรัพยากรที่น่าอนุรักษ์ไว้ แต่คนในประเทศก็ยังมีพฤติกรรมที่ย้อนแย้งสูงพอสมควร ลองไปเดินริมชายฝั่งในเมืองหลวงดูสิ น้ำใสกิ๊ง แต่ขยะลอยเกลื่อน แม้รัฐบาลจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าแก้วพลาสติกขนาดเล็ก ห้ามใช้หลอดพลาสติก แต่การใช้พลาสติกในรูปแบบอื่นยังคงเสรีและไม่มีการควบคุม เช่น ซื้อยาสีฟัน 1 หลอด หมากฝรั่ง 1 แผง ก็ใส่ถุงพลาสติกหิ้วกลับบ้าน แก้ว ขวดพลาสติกแบบ take away ก็ยังใช้กันเกลื่อน บ้านเรือนไม่มีการแยกขวด แยกขยะพลาสติก ปัญหาขยะก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับที่นั่น
.
10. สำหรับใครที่อยากไปเที่ยว มัลดีฟส์มีเป็นร้อยๆ เกาะที่น่าสนใจ คล้ายกันบ้าง ต่างกันบ้าง ไม่ได้มีแค่มาฟูชิ ฟูลิดู หรือรีสอร์ทหรูกลางน้ำเท่านั้น หากแต่นักทำคอนเทนท์ทั้งหลายของบ้านเรา อาจจะยังไม่รู้จักหรือเข้าไม่ถึง คนจึงรู้จักมัลดีฟส์แค่นั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว ถ้าเราวางแผนดีๆ เราจะได้เที่ยวมัลดีฟส์ในรูปแบบที่หลากหลาย มากกว่าไปแค่ 1 หรือ 2 เกาะ หรือแค่ไปแช่น้ำ เช็คอินสวยๆ อยู่รีสอร์ทหรู 2-3 คืน ซึ่งถ้าแบบนั้น ก็แทบไม่ต่างกับเที่ยว ภูเก็ต พังงา ตราด ตามเกาะต่างๆ ที่สวยงามบ้านเรา เพียงแต่รีสอร์ทเขาหรูเริ่ดกว่าเท่านั้นเอง
.
แต่ก็เข้าใจได้ว่า การเดินทางที่มัลดีฟส์อาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาสำหรับหลายๆ คน ส่วนใหญ่เราจึง “เที่ยวตามรีวิว” แต่ถ้าใครพอมีเวลา และอยากสัมผัสความหลากหลาย ทั้งผู้คน สถานที่ วัฒนธรรม ลองทำการบ้านดีๆ รับรองว่าจะได้เห็นมัลดีฟส์ในมุมที่ต่างออกไป และยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายให้เราได้สัมผัส เช่น Addu หมู่เกาะทางใต้สุดที่ต้องบินผ่านเส้นศูนย์สูตร หรือ Villingili เกาะที่ไม่มีรถสันดาปหรือมอเตอร์ไซค์ใช้น้ำมันวิ่งแม้แต่คันเดียว ใช้เวลาเดินเล่นทั่วเกาะเพียงครึ่งวันแค่นั่งเรือจากมาเล่ข้ามไปเพียง 10 นาที หรืออย่างเกาะ Huraa ที่สามารถพายเรือเล่นในทะเลสาปป่าโกงกาง เดินเล่นทั่วเกาะ ชายหาดส่วนตัวแบบที่เล่นน้ำได้ ไม่ต้องแย่งใคร
.
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์จริงที่ได้ไปสัมผัสมา แบบที่แตกต่างจากหลายคน ทั้งด้านดีและไม่ดีแบบที่นึกไม่ถึง
.
แต่กระนั้นก็ตาม “มัลดีฟส์” ยังคงเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับคนรักทะเล ที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต และหากมีโอกาส ก็คงไม่ใช่แค่ครั้งเดียวอย่างแน่นอน