เลิกซื้อของ แต่เงินเก็บไม่เห็นเพิ่มเลย ‼️ เพราะ...

ช่วงนี้กระแส 'No Buy Month'

หรือ 'การไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยตลอดทั้งเดือน'

กำลังมาแรง สวนกระแส 'ของมันต้องมี'

ในช่วงก่อน ๆ มั่ก ๆ เลย เราก็เลยทำตามดู

.

จุดประสงค์หลักของ challagne นี้

น่าจะเป็น 'การออมเงินเพิ่มขึ้น' และ

'ลดการสะสมของไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มพื้นที่' ละมั้ง

ซึ่งแน่นอน มันท้าทายมาก ๆ

.

จริง ๆ เราได้ยันดาลใจมาจากเล่มนี้

'1 ปีที่พวกเราจะไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย'

พอกระแส 'No Buy Month' มา

ก็คิดถึงเล่มนี้เป็นเล่มแรกเลย เพราะ...

.

ภายในเล่มบอกเล่าประสบการณ์และเหตุผล

ที่มาว่า ทำไม!? ถึงไม่ซื้อของเลย 1 ปี

1 ปี!! 365 วันนะพี่น้อง!? บ้าระห่ำมาก

ขอสารภาพว่าเร้าใจก็เลยต้องอ่าน

.

แต่ผิดจากที่คาดไปแฮะ!

เป้าหมายหลักของหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่

❌️ การออมเงิน

❌️ การเพิ่มพื้นที่ภายในบ้าน

แต่เป็น...

✅️ การดำรงอยู่ได้โดยไม่ใช้สิ่งของเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือตัวตน

มันล้ำลึกมาก...

มาดูกฏ 3 ข้อของผู้เขียนกันดีกว่า..

💪 เราจะซื้อเฉพาะของที่ใช้หมดใน 1 ปี

💪 เราจะซ่อมของแทนการซื้อใหม่ (ในกรณีที่ค่าซ่อมแพงกว่าก็ซื้อใหม่เป็นกรณียกเว้น)

💪 จะมอบของขวัญให้ใครก็มอบของที่ให้ประสบการณ์

ก็ถ้านอกเหนือจากที่พูดมาก็...ไม่ซื้อเลย 😅

.

.

แต่แน่นอน มันมีบัคระบบ 55555 🤣

บัคระบบนี้ก็คือ 'ของกิน' ไงล่ะ!

ครอบครัวนี้เขาเลยประสบปัญหาเรื่องน้ำหนักขึ้น

เพราะถ้าซื้อของไม่ได้ก็ขอสวาปามให้หนำใจ 😅

.

สรุปเงินเก็บไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ

'ทัศนคติที่ดี' เราจะไม่ตัดสินตัวเองและคนอื่น

'จากข้าวของที่ครอบครอง' และก็ไม่แน่ว่า

จะทำให้เรารู้สึกอยาก 'เปรียบเทียบกับคนอื่นน้อยลง'

.

.

ซึ่งอนิสงค์ก็ได้ในเรื่องของ

✅️ การออมเงิน

✅️ การเพิ่มพื้นที่ภายในบ้าน

ด้วยจริง ๆ นั้นแหละ

เล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่อยากป้ายยาให้อ่านจริง ๆ

หวังว่าผู้อ่านจะมีความสุขขึ้นและ

มีความพอใจในชีวิตมากขึ้นน้าา 🤟😎

#ป้ายยากับlemon8 #หนังสือ #หนังสือดีบอกต่อ #หนังสือพัฒนาตนเอง #อ่านตามLemon8