เก็บเงินด้วยเทคนิค 6 Jar 🫙

เทคนิค 6 Jar คือการสมมุติว่าเราเก็บเงินที่ได้มาในโหลทั้ง 6 ใบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน 6 อย่าง หากเรามีรายได้เข้ามา 100 บาท เราจะต้องจัดการเงินตามเทคนิค 6 Jar ตามสัดส่วนได้ดังนี้

- ใบที่ 1. เพื่อใช้จ่ายที่จำเป็น 55%

เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร หากค่าใช้จ่ายในส่วนนี้รวมหนี้สินไปแล้วที่ 55 % จะถือว่าดีมากๆ เพราะเราจะเหลือเงินสำหรับการออมและลงทุนในโหลอื่นๆ

- ใบที่ 2. เพื่อให้รางวัลตนเอง 10%

บางครั้งหากต้องโฟกัสแต่การเก็บเงินก็อาจจะทำให้เครียดเกินไป แต่หากได้มีการแบ่งเพื่อให้รางวัลกับสิ่งที่เราชอบเช่น อาหารมื้อหรู ของสะสม หรืออื่นๆที่เราชื่นชอบ แต่จะต้องควบคุมไม่ให้เกิน 10% ของรายได้

- ใบที่ 3. เพื่อการพัฒนาตนเอง 10%

เป็นการเพิ่มความรู้และทักษะใหม่ๆ เพื่อจะได้นำมาต่อยอดหรือสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ เพราะถือเป็นการลงทุนในตนเอง และเป็นการลงทุนเดียวที่ไม่มีการขาดทุน

- ใบที่ 4. เพื่อสำรองสำหรับอนาคต 10%

อนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเก็บเพื่อวางแผนการเงินสำหรับอนาคตไม่ว่าจะเป็น เรื่องเกษียณ ความเสี่ยงต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ ซึ่งสามารถเก็บเงิน 10% สำหรับโอนความเสี่ยงต่างๆผ่านบริษัทประกัน เพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

- ใบที่ 5. เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน 10%

ใบนี้เป็นส่วนของเป้าหมายการลงทุน เพื่อต่อยอดเงินที่มีให้มีโอกาสเติมโตและสร้างรายได้กลับมาให้เราหรือ Passive Income โดยสามารถลงทุนในหุ้น กองทุน ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ที่เราเข้าใจและศึกษามาอย่างดี ก็จะช่วยให้เรามีอิสระภาพทางการเงินได้

- ใบที่ 6. เพื่อการให้ผู้อื่น 5%

จากที่เราเก็บเพื่อตัวเองมาแล้ว ก็ควรแบ่งบันสิ่งที่มีให้แก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นทางการบริจาคต่างๆ ทำบุญ ฯลฯ

เพื่อสร้างนิสัยการส่งต่อและเสียสละเพื่อสังคมให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้เทคนิค 6 Jar สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมกับบุคคลได้ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพการเงินที่ดีและเจอกันที่ปลายทางที่ชื่อว่า “อิสระภาพทางการเงิน”

#MoneyJourney #JetMusicAIA #วางแผนการเงิน #ทริคเก็บเงิน #เก็บออม #ทริคประหยัดเงิน