สรุป 20 ข้อคิดจาก 📚 “Healing is the new high“

🌷 ภาคต่อจาก Good vibes Good Life

1. “การรับรู้” เป็นกุญแจสำคัญใน“การเยียวยา” เราต้องต้้งใจ สังเกต ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง การหาวิธีที่ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน เป็นเรื่องสำคัญ

2. ความคิด อารมณ์ สัมผัส หรือประสบการณ์ใดๆ ที่เราพยายามหลีกเลี่ยง แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่กำลังร้องขอการเยียวยาจากเรา

3. เราทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับบาดแผลในใจ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลบมันออกไป -- วิธีที่ทำได้คือเราต้องจัดการกับมัน พลิกกลับด้าน และมองในมุมมองที่ต่างจากเดิม

4. แรงสั่นสะเทือนหรือคลื่นความถี่ของเราเป็นสิ่งสำคัญ มันเป็นพลังงานที่วิ่งอยู่ภายในตัวเรา แล้วแผ่ออกไปสู่ภายนอก และสะท้อนกลับมาหาเรา

5. การเป็นผู้ควบคุมการเยียวยาจิตใจของตัวเอง คือการรักตัวเอง อย่างยิ่งใหญ่แบบนึง เมื่อเรามุ่งมั่นกับกระบวนการนี้ เราก็ได้ยกระดับแรงสั่นสะเทือนของเรา

---------

6. ถ้าเมื่อไหร่ที่เรามุ่งมั่นจะปรับปรุงตนเอง ในแบบที่คนอื่นคิดว่าเราควรจะเป็น แสดงว่าเราเห็นคนอื่นสำคัญกว่าตัวเราเอง

7. บาดแผลทางใจ ที่สร้างความทุกข์ให้เราตอนเป็นเด็ก มีอิทธิพลต่อวิธีที่เราใช้รับมือกับประสบการณ์ต่างๆ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกในปัจจุบัน

8. บาดแผลทางใจ ให้อาหารแก่อัตตาที่หวาดกลัวและบาดเจ็บ ทั้งยั้งกระตุ้นให้เราตัดสินใยตามความเจ็บปวดนั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าสัญชาตญาณหยั่งรู้เป็นผู้นำในการตัดสินใจ เราก็จะสื่อสารสิ่งต่างๆ จากตัวตนที่เป็นความรักและความมั่นคง

9. สิ่งสำคัญคือ เราต้องเข้าใจว่า การกำหนดขอบเขตความสัมพันธ์ ไม่ได้ทำเพื่อกำจัดผู้คน แต่เพื่อจะรักษาพวกเขาไว้ในชีวิต โดยไม่ทำให้คุณเสียความสงบภายใน

10. ”ขอบเขตความสัมพันธ์“ ไม่ได้เป็นเรื่องเห็นแก่ตัวหรือเย็นชา -- ตรงกันข้าม มันเป็นวิธีใส่ใจตัวเองและคนอื่นอย่างหนักแน่น แต่ก็อ่อนโยน ขอบเขตความสัมพันธ์ทำให้เรารักตัวเองได้เต็มที่ขึ้นและเคารพตัวเองมากขึ้น

------------

11. เมื่อเรากำหนดข้อจำกัดที่เหมาะสมในความสัมพันธ์ เท่ากับ คุณให้ความสัมพันธ์นั้น ได้มีพื้นที่เติบโตงอกงาม เป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จ

12. วัฒนธรรมที่มีการเปรียบเทียบสูงอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของบาดแผลทางใจ ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และกลายเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไม่ทันสังเกตว่ามันกำลังส่งผลต่อวิธีคิดของเรา

13. การโทษอดีตว่ามันทำให้คุณมีความเชื่อที่จำกัด ไม่ได้แก้ปัญหา -- คุณต้องหาวิธีคิดใหม่และเป็นคนใหม่ จากนั้นก็ฝึกใช้แนวทางใหม่ๆ เหล่านั้น จนกระทั้งเชื่อว่าเป็นความจริงมากกว่าความเชื่อเดิม

14. ”ความเข้มแข็งที่สุด“ คือ การรู้ว่าตัวเองกลับสู่ดุลยภาพได้ รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงและสงบสุขอยู่ตรงนั้นเสมอ

15. เวลาที่คุณเจออุปสรรค อย่าเข้มงวดกับตัวเองเกินไป ถ้าคุณทำพลาดและตกอยู่ในบทบาทของผู้ถูกกระทำ คุณก็จะได้รับการปฏิบัติแบบผู้ถูกกระทำต่อไป ขอแค่พยายามให้ดีที่สุดที่จะก้าวไปข้างหน้าก็พอ

-----------

16. คนที่พยายามดูถูกเรา แสดงถึงอุปนิสัยและวิธีมองโลกของเขา ไม่ใช่ของเรา -- คนที่อยากทำร้ายโลกภายนอก จะต้องมีความเจ็บปวดอยู่ในโลกภายในแน่นอน เพราะเราสามารถให้ได้เฉพาะสิ่งที่เรามี

17. ”การดูแลตัวเอง“ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการยกระดับแรงสั่นสะเทือน -- คุณต้องหาทางที่จะเปลี่ยน อารมณ์ความรู้สึกตัวเอง แทนที่จะไม่สนใจมัน

18. “การเยียวยา” ไม่ได้เป็นเพียงการเยียวยา แต่เกี่ยวกับชีวิตเราทั้งชีวิต -- ถ้าเราต้องการเปลี่ยนชีวิตขนานใหญ่ ต้องจดจ่อพลังงานของคุณไปที่ตัวตนภายใน

19. “อิสรภาพอันแท้จริง” เป็นเรื่องของการยอมรับและความสงบที่เกิดจากความเข้าใจ -- เราเป็นอิสระเพราะไม่กลัวเวลาเกิดอุปสรรค -- เป็นอิสระเพราะรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราจะยอมรับและเผชิญหน้ากับมัน

20. จะหยุดพัก สักสองสามวัน สองเดือน หรือสองปี ก็ไม่เป็นไร สิ่งที่สำคัญ ก็คือคุณต้องกลับมาเชื่อมโยงกับศักยภาพที่จะเยียวยาตัวเอง -- จำไว้ว่า คุณเป็นผู้เยียวยาตัวเอง

.

🌷 เราคือ ผู้เยียวยาตัวของเราเอง

( จริงๆในเล่มนี้ มีแบบฝึกหัดให้ทำตามเยอะมาก อยากให้ลองไปตามอ่านกันดู)

📚 Healing is the new high : พลังแห่งการเยียวยาที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต

สำนักพิมพ์ @Amarinbooks

.

#รีวิวหนังสือ #ป้ายยากับlemon8 #ป้ายยาหนังสือ #หนังสือพัฒนาตนเอง #หนังสือดีบอกต่อ #สรุปหนังสือ #รักตัวเอง